Movie Review: Morgan (2016) Morgan: Deadly Jeans, Immortality, Encyclopedia of Death
Movie Review: Morgan (2016) Morgan: Deadly Jeans, Immortality, Encyclopedia of Death
Blog Article
รีวิวหนัง Morgan (2016) มอร์แกน ยีนส์มรณะ อมรณา สารานุกรมแห่งความตาย
ประเภทของภาพยนตร์: แอคชั่น/สยองขวัญ
วันที่เข้าฉาย: วันที่ 2 กันยายน 2559
ผู้กำกับ: Luke Scott
นักแสดงนำ: Kate Mara,Anya Taylor-Joy,Toby Jones,Rose Leslie,Boyd Holbrook,Michelle Yeoh,Jennifer Jason Leigh,Paul Giamatti
ความยาว : 92 นาที
เรื่องย่อ:
เรื่องราวของ ลี เวเทอร์ส เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการความเสี่ยง ของบริษัทวิศวกรรมพันธุกรรม SynSect เธอเดินทางมาถึงพื้นที่ชนบทซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการ L-9 ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตเทียมที่มีดีเอ็นเอสังเคราะห์ ที่ผสมนาโนเทคโนโลยี ชื่อมอร์แกน "สิ่งมีชีวิตลูกผสมที่มีความสามารถในการตัดสินใจโดยอัตโนมัติและตอบสนองทางอารมณ์ที่ซับซ้อน" มีความฉลาดกว่ามนุษย์และเติบโตอย่างรวดเร็ว เดินและพูดได้ภายในหนึ่งเดือน และมีรูปร่างเทียบเท่าเด็กสาววัยรุ่นแล้ว แม้ว่าจะเกิดก่อนหน้าเธอเพียงห้าปีก็ตาม หนังใหม่
เวเทอร์สผู้เย็นชาและแม่นยำซึ่งยืนกรานที่จะเรียกมอร์แกนว่า "มัน" อยู่ที่ไซต์เพื่อประเมินโครงการในขณะที่นักจิตวิทยาประเมินมอร์แกนซึ่งใช้ปากกาแทงที่ตาของดร. แคธี่ กรีฟฟ์ ขณะรับประทานอาหารค่ำกับทีมนักวิทยาศาสตร์แปดคน เวเทอร์สและหัวหน้าโครงการ ดร. หลุย เฉิง และ ดร. ไซมอน ซีเกลอร์ พูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเฮลซิงกิซึ่งเกี่ยวข้องกับเฉิง ซึ่งนักวิจัย SynSect 21 คนถูกฆ่าตายภายในหนึ่งชั่วโมงโดย "ต้นแบบที่หยาบคาย"
ลีได้รู้ว่ามอร์แกนโจมตีกรีฟฟ์เมื่อเธอถูกห้ามไม่ให้ออกจากห้องของเธอ ซึ่งเป็นห้องขังกระจก หลังจากฆ่ากวางที่ถูกเสียบไว้บนกิ่งไม้ด้วยความสงสารต่อความทุกข์ทรมานของมัน ขณะที่สำรวจภายนอก นักวิทยาศาสตร์ได้เลี้ยงดูมอร์แกนมาตั้งแต่เกิดหลังจากพยายามล้มเหลวถึงสองครั้ง และส่วนใหญ่ถือว่าเธอเป็นลูกของพวกเขา กรีฟฟ์ปกป้องมอร์แกนกับเวเทอร์สแม้ว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บ และดร.เอมี่ เมนเซอร์ต้องการพาเธอออกไปเที่ยวอีกครั้ง
เมนเซอร์สัญญาว่าจะพามอร์แกนไปที่ทะเลสาบใกล้เคียงซึ่งเธอบรรยายว่าวิเศษมาก นักบำบัดพฤติกรรมเข้าใจว่ามอร์แกนเป็นคนแปลกทางอารมณ์ แม้ว่าเธอจะฉลาด รูปร่างหน้าตา และความสามารถก็ตาม แม้ว่ามอร์แกนจะคิดว่าเฉิงเป็น "แม่" ของเธอ แต่เธอก็มองโลกในแง่ร้ายเกี่ยวกับโครงการนี้ เธอสารภาพกับเวเทอร์สว่าเธอยุติการออกไปเที่ยวเพราะเป็นการโหดร้ายที่จะเปิดเผยมอร์แกนต่อโลกที่เธอไม่สามารถเข้าไปได้
นักจิตวิทยาและ ผู้เชี่ยวชาญ ด้านปัญญาประดิษฐ์ดร. อลัน ชาปิโร มาถึงเพื่อประเมินมอร์แกนและขัดขืนคำขอของนักวิทยาศาสตร์ที่ให้รออยู่นอกห้องของมอร์แกนเพื่อประเมินอย่างรวดเร็ว เมื่อชาปิโรเยาะเย้ยมอร์แกนอย่างก้าวร้าวเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินของเขา เธอมองไปที่มือของเธอ โกรธและฆ่าเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ
เวเทอร์สให้ยาสลบมอร์แกนหลังจากหลบหนีไปได้ไม่นาน และตัดสินใจว่าเธอเดาใจยากเกินไปและต้องถูกกำจัด นักวิทยาศาสตร์ปฏิเสธที่จะฆ่ามอร์แกน ก่อนที่เวเทอร์สจะทำเช่นนั้น พวกเขายิงเธอด้วยลูกดอกยาสลบและขังเธอไว้ในห้องขังที่มอร์แกนถูกคุมขัง นักวิทยาศาสตร์วางแผนที่จะหลบหนีกับมอร์แกน แต่หลังจากตื่นขึ้น มอร์แกนเชื่อว่าพวกเขาทรยศต่อเธอ จึงฆ่าพวกเขาส่วนใหญ่ ในขณะที่ซีเกลอร์ฆ่าตัวตาย
ในบ้านของนักวิทยาศาสตร์ เฉิงได้บันทึกคำขอโทษสำหรับความล้มเหลวของโครงการ นักวิทยาศาสตร์พยายามทำให้มอร์แกน "มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น" มากกว่าความพยายามครั้งก่อนๆ เพื่อให้เธอสามารถออกแบบอาวุธต่อสู้ได้ดียิ่งขึ้น แต่พบว่าผลลัพธ์นั้นควบคุมได้ยากกว่า มอร์แกนมาถึงและหลังจากสนทนากับ "แม่" ของเธอเป็นภาษาจีนแล้ว เธอก็ใช้มือกดเธอให้หายใจไม่ออก เวเทอร์สหนีออกจากห้องขังและต่อสู้กับมอร์แกนเพียงสั้นๆ และสามารถต่อกรกับเธอได้ มอร์แกนหนีไปกับเมนเซอร์ที่หวาดกลัว ซึ่งมอร์แกนบอกว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์คนเดียวที่เป็นเพื่อนแท้ของเธอ
เวเทอร์สและนักโภชนาการ สกีปวรอนสกี้ ติดตามทั้งคู่ วรอนสกี้สรุปว่ามอร์แกนบังคับให้เมนเซอร์พาเธอไปที่ทะเลสาบ ซึ่งทำให้มอร์แกนเข้าไปหาเธอ เธอและเวเทอร์สต่อสู้กันอีกครั้ง ดูเหมือนว่าจะมีพละกำลังและความเร็วพอๆ กัน มอร์แกนล้มเวเทอร์สลง ซึ่งถูกเสียบเข้ากับกิ่งไม้ที่ล้ม มอร์แกนหนีไปอีกครั้งและพบกับเมนเซอร์ที่ท่าเทียบเรือ แต่เวเทอร์สซึ่งรอดชีวิตจากการถูกเสียบก็ปรากฏตัวขึ้นและทำให้เธอจมน้ำตาย จากนั้นเธอก็ยิงเมนเซอร์และวรอนสกี้ โดยขอโทษก่อนจะออกไปจากที่เกิดเหตุ
หัวหน้าของเวเทอร์สที่ SynSect และผู้บริหารอีกคนหารือเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ พวกเขาตัดสินใจว่าเหตุการณ์นี้พิสูจน์ได้ว่าโครงการ L-4 ก่อนหน้านี้ของบริษัทนั้นเหนือกว่า เมื่อผู้บริหารถามเกี่ยวกับเวเทอร์ส หัวหน้าก็บอกว่าเธอสมบูรณ์แบบ และเปิดเผยว่าจริงๆ แล้วเวเทอร์สคือต้นแบบ L-4 ซึ่งขาดการพัฒนาทางอารมณ์ไปมากเช่นเดียวกับมอร์แกน ในขณะที่นั่งอยู่ในร้านอาหาร เวเทอร์สมองไปที่มือของเธอในลักษณะเดียวกับที่มอร์แกนทำ
ความรู้สึกหลังจากชมภาพยนตร์:
หนังเรื่องนี้เปิดมาก็แนะนำให้ได้รู้จักกับ มอร์แกน มนุษย์ทดลองทที่มีความผันผวนทางอารมณ์จนดูเป็นอันตรายและทางบริษัทที่ควบคุมการทดลองนี้ก็ส่ง ลี เวเธอร์ส มาเพื่อตรวจสอบว่าผลการทดลองขแงมอแกนนี้ไปถึงระดับไหน และควรสนับสนุนต่อไปหรือไม่ 2u-hd.com
ช่วงต้นก็ตามสูตร มีฉากช็อคเรียกน้ำย่อย ก่อนจะเข้าเรื่อง เข้าส่วนแนะนำตัวละคร แนะนำสถานที่ จากนั้นความผิดปกติของมอร์แกนก็มากขึ้นเรื่อยๆ จนพอถึงจุดหนึ่งความสยองก็เริ่มต้นแบบชัดเจน ทำให้คนที่เหลือต้องพยายามหนีหรือไม่ก็กำจัดมอร์แกน
จุดที่ถือว่าเป็นทั้งส่วนดีและจุดด้อยของหนังคือบรรยากาศครับ หนังมาพร้อมสไตล์ภาพแบบชวนให้นึกถึง Transcendence ประมาณว่าสรรพสิ่งในหนังดูทึม ดูไร้ชีวิตชีวาซึ่งในบางอารมณ์มันก็เสริมความน่าสนใจให้หนังได้ แต่ยอมรับว่าพอดูบรรยากาศแบบนี้นานเกินไป
และระหว่างดูใจมันก็คิดตลอดน่ะ เดี๋ยวคนในสถานที่ทดลองแห่งนี้ก็ต้องตายแหงๆ เดี๋ยวมอร์แกนก็ออกฤทธิ์ เพราะบรรยากาศมันมาคุตลอด การดูช่วงต้นเรื่องมันเลยเหมือนนั่งรอไปงั้นๆ รอจนกว่าจะเกิดเหตุนรกแตก ซึ่งช่วงต้นเรื่องมันก็ไม่ได้มีปมอะไรให้ตาม ยิ่งมาเจอกับบรรยากาศทึมๆ ไร้ชีวิตแบบที่ผมบอก มันเลยเกิดแรงหนืดหนักขึ้นไปอีก
ขณะเดียวกันจังหวะการทิ้งปมของหนังก็ยังไม่เนียนเท่าไหร่ เพราะหนังมันก็จะมีความซับซ้อนอะไรเล็กน้อยในเรื่องเกี่ยวกับโครงการทดลอง ประมาณว่าตอนจบมีการเผยปมกะให้เราอึ้ง แต่เนื่องจากจังหวะการทิ้งปมระหว่างเรื่องมันเผยอะไรหลายอย่างเยอะไป จนไม่ยากที่เราจะคาดเดาถึงบทสรุปในตอนท้าย และพอตอนท้ายมาถึง มันเลยไม่อึ้งเท่าที่ควรน่ะครับ
ยอมรับว่าการพูดถึงหนังเรื่องนี้ยากอยู่ เพราะมันไม่ได้แย่แบบหนังเกรดบี มันมีงานเทคนิคและออกแบบที่ดูดีได้มาตรฐานหนังสตูดิโอ ดาราที่มาเล่นก็ไม่ใช่โนเนม ไม่ว่าจะ Mara, Toby Jones, Michelle Yeoh, Jennifer Jason Leigh และ Paul Giamatti ซึ่งแต่ละคนก็เล่นได้ดีตามที่หนังเปิดโอกาส
หรือดนตรีของ Max Richter แม้จะซ้ำทางหนังเรื่องอื่น แต่ก็ถือว่าพอเหมาะ งานภาพที่ออกมาก็สวยไม่เลว พวกภาพป่าเขาและลำน้ำก็เก็บรายละเอียดมาได้ดี องค์ประกอบหลายอย่างจริงๆ มันโอเค แต่มาอ่อนพลังตรงบทและการเล่าเรื่องนี่แหละ ที่มันยังไม่สามารถกระตุ้นความน่าติดตามให้เกิดขึ้นได้
นี่ก็เป็นผลงานกำกับครั้งแรกของ Luke Scott ลูกชายของ Ridley Scott ซึ่งถ้ามองในแง่ว่า นี่คืองานเปิดตัวชิ้นแรก ก็ถือว่าไม่บวกแต่ก็ไม่ลบ ไม่ถึงกับแจ้งเกิดสำเร็จ แต่ก็ใช่จะเป็นงานที่ไม่มีของดีอยู่เลย
ถ้าจะมีฉากไหนที่ชอบก็คงเป็นฉากที่มอร์แกนคุยกับ ดร.อลัน ฉากที่ว่ามันกดดันดี จะว่าลุ้นก็ไม่เชิง เพราะรู้อยู่แล้วล่ะว่ามันจะไปจบลงตรงไหน แต่แค่ลุ้นเล็กๆ ว่ามันจะถึงจุดพีคเมื่อไร ถือเป็นฉากที่ดูโอเคสุดแล้วล่ะ
สรุปว่าหนังออกมากลางๆ ไม่มีอะไรหวือหวา ฉากน่ากลัวก็พอมี แต่ไม่ถึงกับสยองมากมายอะไร หากใครเป็นคอแนวนี้แล้วอยากลองลิ้มก็ไม่มีปัญหา ขอเพียงไม่คาดหวังก็น่าจะพอไหว แต่ตัวผมเองขนาดลดความคาดหวัง ยังแอบเนือยเลยครับ
#ดูหนังฟรี #ดูหนังใหม่2024 #Morgan #มอร์แกน
กลับด้านบน
Report this page